บทความนี้จะมาพูดถึงวิธีทำ auto mount สำหรับ Hard disk หรือ USB Drive บน Raspberry Pi หรือใช้กะ Linux ก็ได้เหมือนกัน โดยปรกติแล้วบน Raspberry เวลาเสียบ USB Drive (FlashDrive) เข้าไปแล้ว มันจะยังมองไม่เห็น เราต้องมานั้งทำการ mount path ก่อนทำให้ไม่ค่อยสะดวก รวมถึงเวลาย้ายไปเสียบกับ USB ซ่องอื่นก็จะต้องมาเสียเวลา
บทความนี้จะมาแนะนำวิธีการ Forward port เพื่อให้สามารถเข้าถึง Network ข้างในบ้าน ร่วมกับ dynamic dns อย่าง No-ip กัน โดยทั่วไปแล้ว ถ้ามีหากมี request จากข้างนอกเข้ามา จะโดน router กันไว้ก่อน จะไม่สามารถทะลวงเข้าหา local ip เครืองหลัง router ได้ (เหมือนมี Firewall กันไว้อยู่นั้นเอง) ทำให้เครือง หรือ
HTTP/2 หรือ (เดิมเรียกว่า HTTP/2.0) เป็นมาตรฐานใหม่ของ web protocol ซึ่งจะมาแทนที่ HTTP/1.1 ซึ่งออกมาตั้งแต่ 1997 (RFC 2068) และใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน ความจริงแล้วเจ้า HTTP/2 นั้น มันได้ต่อยอดการพัฒนามาจาก Project SPDY ของ Google จะเห็นว่าเว็บใหญ่ๆหลายๆ เว็บอย่างเช่น Google, Twitter ก็หันมาใช้ HTTP/2 กันแล้ว ในขณะเดียวกัน
ทุกวันนี้จะเห็นว่ามีคนหันมาใช้ VPS (Virtual Private Server) กันเยอะขึ้น และคงจะรู้จักตัวจัดการ Hosting อย่าง Vesta CP กันมาบ้างแล้ว ซึ่งเจ้า Vesta CP มันก็คือ Web Hosting Control Panel (หรือจะว่า มันคือตัวจัดการ web Hosting ก็ได้) ทีสำคัญ มันเป็น open source (ฟรี)
mod_deflate เป็น Module ของ web server ที่ใช้ในการบีบอัดขข้อมูล (Compress ) ให้มีขนาดเล็กลง ก่อนที่จะส่งไปให้ Client หลังจากฝั่ง Client (Browser) ได้รับ response จากฝั่ง server แล้ว ก็จะทำการถอดการบีบอัดข้อมูลออกมาเหมือนเดิม (Uncompress) เหตุนี้เองที่ทำให้การโอนถ่ายข้อมูลจะรวดเร็วยิ่งขึ้น แถมยังช่วยลดปริมาณข้อมูล(traffic) ได้ดีอีกด้วย เหมือนตอนนี้ mod_deflate ถูกออกมาแทนที่ mod_gzip ในปัจจุบัน
ที่ผ่านมาเราจะเคยได้ยินข่าว เกียวกับช่องโหว่ของ SSLv3 ซึ่งเป็น Protocol ที่ออกมาตั้งแต่ปี 1996 (เก่ามากๆ) และเป็นช่องโหว่ที่ถือว่าร้ายแรงเหมือนกัน มีผลทำให้สามารถถอดรหัสข้อมูลระหว่าง Client – Server ได้ ช่องโหว่นี้ถูกตั่งชื่อว่า “POODLE” หรือ “Padding Oracle On Downgraded Legacy Encryption” หรือ CVE-20140-3566 พอดีเมือวานผม update server ใหม่ ให้รองรับ
SSL (Secure Sockets Layer) เป็นเครื่องหมายรับรองความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะบอกว่าเว็บนั้นมีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ หลายๆ เว็บไชต์ใหญ่ๆ ต่างก็ใช้ SSL กันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Google, Microsoft, Facebook, Twitter รวมถึงเว็บไชต์ที่ต้องการความน่าเชื่อถืออย่างพวกกลุ่มธนาคารทั้งหลายต่างก็ใช้ SSL เพื่อให้เกิดความปลอดภัยน่าเชื่อถือ โดยการรับรอง Certificate นั้นจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านนี้เป็นผู้อนุมัติหรือเรียกว่า CA (Certificate Authority) ตอนนี้เห็นมีหลายเจ้าเหมือนกัน. เจ้า SSL นั้น มันจะทำงานอยู่บน Protocol : HTTPS
Raspberry Pi เป็น Single Bord หรือจะว่ามันเป็น Embedded pc ก็ได้ ในตอนนี้ ถือว่ามันเป็นบอร์ดที่ยอดฮิต ณ. ปัจจุบัน เนื่องจากมีขนาดเล็ก (เล็กเท่ากับ ATM) พกพาสะดวก แถมยังประหยัดพลังาน ตัวบอร์ดมี HDMI, USB, Jack 3.5 Audio ติดมาให้เลย ส่วน Storage ใช้ SDCard และยังมี
ช่วงนี้มีเวลาว่างเหลือนิดหน่อย เลยจะกลับมาเขียนบทความอีกครั้ง หลังจากช่วงหลังๆที่ผ่านมา งานประจำก็ยุ่งๆ เหลือเกิน + ความขี้เกีขจของผมเอง ^ ^” เลยไม่ค่อยได้มีเวลา Update content ไรเกียวกับ IT ในเว็บบอร์ดตัวเก่า เลยกลายเป็นเว็บร้างมานาน ตอนนั้นเลย Backup และปิดเว็บไปประมาฯ 2 ปีกว่าได้ มาถึงตอนนี้เลยอยากจะทำเว็บใหม่ จะเน้นบทความทางด้าน IT, Programming, Network, Network Security ตามเคย รวมถึงเล่าเรื่องราว
Recent Comments